วันนี้ผมมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการ์ตูนอนิเมะมาฝากกันครับเรื่องราวที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับสถานที่ที่มีอยู่จริงในการ์ตูนอนิเมะและคุณไม่ควรพลาดเลยถ้ามีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น คนที่ชื่นชอบการ์ตูนอนิเมะนั้นต้องลองไปแวะไปชมดูครับและลองถ่ายรูปในสถานที่จริงเทียบกับการ์ตูน Anime ดูว่ามันได้บรรยากาศเหมือนในการ์ตูนหรือเปล่า ส่วนอีกเรื่องที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ ผมจะพาไปดูว่าเรื่องจริงที่มักจะเกิดขึ้นและมากเห็นในการ์ตูนอนิเมะมีอะไรกันบ้าง เพราะว่าในทุกๆวันนี้การ์ตูนอนิเมะก็ยังได้รับความนิยมแพร่ขยายไปนอกจากฝั่งทางตะวันออกของเราแล้วก็ยังดังไปไกลถึงตะวันตกเลยและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในการ์ตูนที่ได้รับกระแสโด่งดังไปทั่วโลก 1 เรื่องเลยก็ว่าได้นั่นก็คือวันพีชทำให้คนต่างชาติได้รู้จักการ์ตูนอนิเมะมากขึ้นแถมยังมีแฟนคลับทั่วโลกด้วย
ทำให้วัยรุ่นในปัจจุบันหันมาสนใจอนิเมะมากขึ้นรวมทั้งใครที่อยากอ่านแบบเจาะลึกก็ยังไปศึกษาหามังงะของการ์ตูนอนิเมะเรื่องนั้นมาเก็บสะสมและอ่านด้วย ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมากทำให้การ์ตูนอนิเมะมีสีสันและมีเอฟเฟคชวนดูมากกว่าสมัยแต่ก่อนรวมไปถึงหนังสือการ์ตูนก็ถูกพัฒนามาไกลมากๆซึ่งในแต่ก่อนการ์ตูนมังงะที่เราได้อ่านกันก็จะตกอยู่เล่มละประมาณ 20-30 5 บาทและกระดาษที่ทำการ์ตูนก็เป็นกระดาษทั่วๆไปพ่อเก็บสะสมไว้นานกระดาษก็จะกลายเป็นสีเหลืองเป็นของเก่าแต่ว่าในทุกวันนี้นั้นกระดาษที่นำมาใช้ผลิตรวมเล่มการ์ตูนอนิเมะจะเป็นกระดาษถนอมสายตาแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานบางเรื่องอาจจะทำเป็น Big Book หนังสือขนาดใหญ่รวมเล่มให้นักสะสมได้เก็บสะสมกัน
เอาเป็นว่าในบทความนี้ผมไปเริ่มกันที่สถานที่ที่มีอยู่จริงที่กาตัวเองไม่นั้นใช้กันดีกว่าครับใครที่มีโอกาสจะได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็ลองแวะไปดูกันได้สำหรับคนที่ชื่นชอบ แต่ตอนนี้ก็คงจะวางแผนไว้ก่อนครับเพราะว่าเนื่องด้วยไวรัสโคโรน่าหรือ covid-19 ยังมีสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักจนกว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นเราก็วางแผนไว้ก็คงจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับเพื่อไปดื่มด่ำบรรยากาศกับการ์ตูนที่คุณชอบที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ
1 สถานีรถไฟคามาคุระโคโคมาเอะ Kamakurakokomae ใน Slam Dunk
การ์ตูนที่โด่งดังมากในยุค 90 ครับและยัง สร้างกระแสเกี่ยวกับเกมกีฬาบาสเกตบอลในบ้านเราให้เด็กๆนั้นลุกขึ้นมาเล่นบาสกันอย่างบ้าคลั่งกับการ์ตูนเรื่อง Slam Dunk โดยมีพระเอกของเรื่องผมสีแดงและมีนิสัยกวนบาทาอย่างมากนั่นก็คือ ซากุรางิฮานามิจิ ซึ่งเขานั้นมีความใฝ่ฝันว่าเขาจะเป็นนักบาสที่เก่งที่สุดให้ได้
และ 1 ฉากในสแลมดั้งที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากนะก็คือภาพของทางรถไฟ และวิวทะเลด้านหลัง ซึ่งเป็นหนึ่งฉากที่แฟนการ์ตูนเรื่องนี้คุ้นตากันเป็นอย่างดีครับและได้เห็นกันบ่อยๆสถานที่แห่งนี้นั่นก็คือทางรถไฟขบวนท้องถิ่นสาย Enoden ซึ่งขบวนรถท้องถิ่นสายนี้นั้นจะวิ่งจากคามาคุระผ่านย่านตัวเมืองของชุมชน แบบเรียบชายฝั่งทะเลไปยังเกาะเอโนะชิมะ สุดสายนั้นจะไปหยุดอยู่ที่ฟูจิซาวะ แล้วนอกเหนือจากภาพวิวแบบนี้แล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดให้คุณนั้นได้ไปสักการะกราบไหว้กันครับและยังสามารถมาชมวิวที่นี่ได้ตลอดทั้งวันเพราะว่ามันเป็นพื้นที่สาธารณะนั่นเอง
2ศาลเจ้าในกรุงโตเกียวยางศาลเจ้าคันดะเมียวจิน Kanda Myoujin Shrine ในเรื่อง Love live!
ศาลเจ้าในกรุงโตเกียวแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่สวยงามมากๆเลยครับด้วยหลังคาสีเขียวและตัวศาลเจ้าที่มีสีแดงบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีและยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอีกด้วยถึงแม้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนมากจะไม่ได้รู้เกี่ยวกับการ์ตูนอนิเมะศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันครับ แถมการเข้าชมศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นส่วนมากก็ไม่ได้เสียค่าเข้าชมด้วย และยังให้เข้าชมได้ตลอดทั้งวันก็เลยทีเดียวครับการเดินทางนั้นก็สะดวกสบายมากมายครับเพียงแค่คุณสามารถนั่งรถไฟสาย JR สบายๆเลยจากกรุงโตเกียวหรือจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินในโตเกียวก็ได้ แล้วจุดที่ใกล้ที่สุดนั้นคุณสามารถเดินได้มาจาก akihabara ได้เลยครับ
ก็อย่างที่หัวข้อในข้อที่ 2 บอกไปนั่นก็คือศาลเจ้าแห่งนี้ปรากฏในการ์ตูนอนิเมะเรื่อง love live! ใครเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ผมบอกได้เลยว่าถ้าไปญี่ปุ่นแล้วไม่แวะศาลเจ้าแห่งนี้ก็ถือว่าน่าเสียดายมากๆเลยครับ เพราะว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ตัวละครสำคัญในการ์ตูนอย่าง โทโจ โนโซมิ ได้มาทำงานพิเศษเป็นมิโกะหรือจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าในการ์ตูนด้วย
3 จังหวัด ฮิโรชิมา hiroshima เมือง โทโมะโนะอุระ Tomonura ในเรื่อง โปเนียวธิดาสมุทรผจญภัย Ponyo
สำหรับภาพยนตร์อนิเมะจากสตูดิโอจิบลิชื่อดังเรื่องโปเนียวธิดา สมุทรผจญภัย ก็เป็นการ์ตูนอนิเมะจากค่ายชื่อดังที่มีคนชื่นชอบเป็นอย่างมากครับผมและเมืองขนาดเล็กที่ติดทะเลแห่งนี้มีบรรยากาศที่น่าหลงใหลมากๆและบ้านเมืองก็เป็นแบบสไตล์ย้อนยุคด้วย จนเป็นที่มาซึ่งฉากในอนิเมะเรื่องนี้และยังเป็นเมืองท่าที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตของชาวประมงของคนญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีและไม่เพียงแต่เมืองนี้จะปรากฏในอนิเมะเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น เมืองนี้ยังปรากฏในอนิเมะหลายๆเรื่องด้วยครับ และเมืองนี้ก็เดินทางแบบสะดวกสบายด้วยรถไฟสาย JR เหมือนเดิมครับแต่ว่าคุณนั้นต้องไปสาย Sanyo Main Line แล้วคุณต้องไปลงที่สถานี Fukuyama เมื่อลงที่สถานีนี้แล้วก็ให้ต่อรถบัสหมายเลข 5 ไปลงที่ Tomonura นั่งไปอีกประมาณ 30 นาทีคุณก็จะถึงที่หมายแล้วครับ
4 จังหวัดกิฟุ Gifu ศาลเจ้าฮิดะ-ซันโนกุ ฮิเอะ Hida-sannogu Hie Shrine ในเรื่อง Your Name
ถ้าใครเป็นแฟนการ์ตูน your name ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักศาลเจ้าฮิดะ-ซันโนกุ ฮิเอะ ก็เพราะว่าศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกใช้เป็นต้นแบบของศาลเจ้าประจำตระกูลมิยามิซุ ซึ่งตระกูลนี้ก็เป็นตระกูลของนางเอกมิซึฮะ ในเมืองอิโตมิ และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเมืองของภาพยนตร์ใน your name ด้วย ด้วยโดยศาลเจ้าแห่งนี้มีคุณยายของมิตซูฮะเป็นผู้ดูแลอยู่ และฉากสำคัญที่ใช้วัดนี้เป็นต้นแบบเล่นก็คือฉากเข้าร่วมพิธีโบราณของศาลเจ้าที่มีมิซึฮะกับน้องสาวนั้นเข้าร่วมพิธีด้วย
ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวันครับไม่เสียค่าเข้าชมคุณสามารถเข้าไปถ่ายบรรยากาศต่างๆในศาลเจ้าได้ และการเดินทางก็สะดวกสบายด้วยรถไฟสาย Jr รับรองว่าคุณนั้นจะเต็มอิ่มกับบรรยากาศทำให้คุณนึกถึงการ์ตูน Your name อย่างแน่นอนและต้องหยิบมันกลับมาดูอีกครั้งหนึ่ง
5 จังหวัดนากาโนะ ทะเลสาบซุวะ ในเรื่อง your name
ถ้าเห็นภาพถ่ายจากทะเลสาบแห่งนี้ก็คงจะรู้ว่ามันเป็นฉากสำคัญมากๆในการ์ตูนอนิเมะเรื่อง your name นะครับนั่นก็คือจากภาพวิวของเมืองติดทะเลสาบในเรื่องที่พระเอกในอนิเมะวิ่งตามหานางเอก และได้ค้นพบความจริงในการ์ตูนอนิเมะว่าทั้งสองคนนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร เรื่องจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือทะเลสาบแห่งนี้นั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดนากาโนะอีกด้วย และถ้าจะให้ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามจริงๆคุณต้องไปในช่วงหน้าหนาวของประเทศญี่ปุ่นจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ไม่มีใครได้สัมผัสหรืออธิบายได้ด้วยตัวหนังสือและคำพูดมันต้องสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น
6 จังหวัดไซตามะ ศาลเจ้าชิชิบุ ได้เรื่อง Anohana The Flower We Saw That Day ดอกไม้มิตรภาพและความทรงจำ
เป็นการ์ตูนอนิเมะที่ยังอยู่ในใจใครหลายๆคนครับกับการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ Anohana ไม่ว่าใครที่ดูอนิเมะเรื่องนี้ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันซาบซึ้งมากๆและทำให้แฟนการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้หลายๆคนนั้นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่และเสียน้ำตาตั้งแต่ตอนแรกๆที่ได้ดูการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ ในการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนซี้ 6 คนในวัยเด็กที่เล่นด้วยกันและอาศัยอยู่ในละแวกบ้านใกล้เคียงกันจนเมื่อมีเหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นทำให้ 1 ในเพื่อนของพวกเขานั้นต้องประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตลง หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก็ทำให้พวกเพื่อนที่เหลือนั้นต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของใครของมันและก็ยังคงมีบาดแผลในจิตใจของแต่ละคนอยู่
เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นผ่านไปประมาณ 10 ปี มันก็เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อวิญญาณของเพื่อนคนที่เสียชีวิตไปนั้นกลับมาหาหนึ่งในเพื่อนทั้ง 5 คน และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของอนิเมะเรื่องนี้ที่จะเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์เกี่ยวกับเพื่อน และส่งผลให้เพื่อนๆนั้นต้องมาหาทางส่งวิญญาณเพื่อนไปสู่สุคติให้จงได้ และ การ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ยังมีเพลงที่ไพเราะมากๆเลยและยังเป็นเพลงที่ติดหูด้วยครับกับเพลง ending Song ของการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้
7 จังหวัดนากาโนะ จุดชมวิวบนเนินเขาของโคโบยามะ เมืองมัตสึโมโตะ ในการ์ตูนเรื่อง Orange
สำหรับจุดชมวิวเนินเขาแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สวยงามมากๆเลยครับโดยเฉพาะในช่วงของพระอาทิตย์กำลังจะตกดินยามเย็นใกล้ค่ำและยิ่งช่วงฤดูที่มีซากุระเบ่งบานนั้นทำให้จุดชมวิวแห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับใครที่ตามรอยอนิเมะเรื่องนี้ ลองหามุมดีๆแล้วนั่งปิกนิกกินข้าวกันชมวิวทิวทัศน์ก็เป็นอีกหนึ่งการพักผ่อนและชื่นชมธรรมชาติผ่านความทรงจำในการดูการ์ตูนของคุณถึงแม้ว่าการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อยแต่ผมมองว่ามันคุ้มค่ามากๆครับถ้าได้ไปแล้วรับรองว่าจะไม่เสียใจเลยสำหรับจุดชมวิวบนเนินเขาโคโบยามะแห่งนี้
8 กรุงโตเกียว สวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอ็น ในเรื่อง The Garden of words
ถ้าใครได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็คงจะรู้นะครับว่าสถานที่สำคัญแห่งนี้มันสำคัญขนาดไหนในการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ หรือใครที่จำชื่อภาษาอังกฤษไม่ได้นั้นชื่อภาษาไทยของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือ ยามสายฝนโปรยปราย สถานที่แห่งนี้มันสำคัญตรงที่ตัวละครหลักทั้งสองคนจากการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ นั่นก็คือทาคาโอะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายเขานั้นมีความใฝ่ฝันอยากเป็นช่างทำรองเท้าได้ทำการโดดเรียนและมานั่งสเก็ตภาพรองเท้าในสวนสาธารณะแห่งนี้จนได้พบกับยูกิโนะ เธอนั้นเป็นสาวออฟฟิศที่โดดงานมาเหมือนกันแต่มานั่งจิบเบียร์กลางสวน และทั้งสองก็ได้พบกันในวันที่ฝนตก ถือได้ว่าเป็นโมเม้นที่สำคัญมากๆในการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ครับ คุณสามารถเข้ามาที่สวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอ็นได้ช่วงเวลา 9:00 น ถึง 16:00 น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าสวนสาธารณะครับผม
9 จังหวัดกุนมะ ชิมะอ่อนเซ็น เรียวกังเซกิเซ็นคัง spirited Away
ถ้าเห็นภาพของเรียวกังแห่งนี้แล้วก็คงจะรู้เลยว่ามันคือต้นแบบของโรงอาบน้ำที่เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง spirited Away ซึ่งเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ใครๆนั้นต่างก็ให้คำชม และมีแฟนๆมากมายในการ์ตูนเรื่องนี้ครับ เรียวกังแห่งนี้เป็นเรียวกังที่มีอายุเก่าแก่และยาวนานมากๆ มากแค่ไหนนั้นก็ประมาณ 300 ปีเห็นจะได้ครับ เป็นหนึ่งในต้นแบบของเรียวกังในอดีตจนถึงปัจจุบันด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ ด้วยขนาดของอาคารพี่ค่อนข้างใหญ่ทำให้เป็นที่จดจำได้ง่าย เรียวกังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีคริสตศักราช 1691 ใครว่างๆก็ลองไปใช้บริการเรียวกังแห่งนี้ได้ครับรับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเหมือนในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง spirited Away อย่างแน่นอน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้นมีงบในการเดินทางไปพักที่เรียวกังแห่งนี้มากน้อยแค่ไหนใครสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ
10 จังหวัดอาโอโมริ คาเฟ่ที่มีชื่อว่าไทโชโรมันทีรูม จากอนิเมะเรื่อง Flying Witch
สำหรับการ์ตูนอนิเมะเรื่อง flying Witch ในภาษาไทยจะเรียกว่าแม่มดเรื่อยเปื่อย คาเฟ่แห่งนี้ก็ปรากฏในการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ครับมันก็เป็นคาเฟ่ที่มีต้นแบบให้คนที่ออกแบบคาเฟ่ในการ์ตูนนั้นรังสรรค์เรื่องราวออกมานั้นเอง ด้วยตัวอาคารที่มีสีดำและหลังคาสีน้ำเงินตัดแดงเป็นความคลาสสิคที่ลงตัวในสไตล์ย้อนยุคมากๆเลยครับ คาเฟ่แห่งนี้ก็มีการบริการทั้งด้านของเครื่องดื่มและอาหารรวมไปถึงขนมมากมาย และยังมีเมนูพิเศษที่ทางร้านนั้นใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลมาประกอบการทำอีกด้วย สำหรับเวลาการเปิดให้บริการจะอยู่ที่ 9:00 น ถึง 17:00 น ครับ การเดินทางนั้นก็สะดวกสบายด้วยรถบัสที่มีให้บริการรอบเมืองและใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 ถึง 15 นาทีก็ถึงคาเฟ่แห่งนี้ล่ะครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้นั้นก็คือแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับการ์ตูนอนิเมะครับมันจะมีสถานที่อะไรกันบ้างไปดูกันเป็นข้อข้อกันดีกว่าครับผม
1 tokyo Anime Center
ฟังชื่อก็รู้แล้วใช่ไหมครับว่ามันเป็นแหล่งศูนย์รวมของอนิเมะ เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ก็มีนิทรรศการต่างๆเกี่ยวกับการ์ตูนนุ้ยรวมไปถึงกิจกรรมมากมายที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูนอนิเมะด้วยให้คุณนั้นได้มาเพลิดเพลินกับการ์ตูนอนิเมะที่คุณชื่นชอบและยังมีสินค้าลิขสิทธิ์ขายอีกด้วย รวมไปถึงสินค้าหายากจากการ์ตูนอนิเมะที่มีที่นี่ที่เดียวขาย และยังมีช่วงเทศกาลต่างๆว่ามันจะมีโปรโมชั่นอะไรกันบ้างให้คนที่ชื่นชอบอนิเมะได้มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปครับผม โดย Tokyo Anime Center แห่งนี้ แห่งนี้ตั้งอยู่ใน akihabara คุณสามารถเดินทางจากสถานี Jr akihabara ด้วยการเดินเท้าเพียงแค่ 2 นาทีคุณก็จะถึงแล้วครับผม เวลาเปิดให้บริการในสถานที่แห่งนี้ก็ตั้งแต่ 11:00 น จนถึง 19:00 น เลยด้วยกัน แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องวันหยุดของสถานที่แห่งนี้นะครับ
2 Suginami Animation Museum
ขึ้นชื่อว่า Museum แล้วก็คงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ใช่ไหมล่ะครับและที่นี่มันก็คือพิพิธภัณฑ์อนิเมชั่นและประวัติศาสตร์การทำอนิเมชั่นของญี่ปุ่นนั่นเองครับ และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในโตเกียว ใช้เวลาเดินทางไม่นานคุณก็มาสัมผัสที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แล้วครับ แถมยังไม่เสียค่าเข้าชมด้วยโดยมีเวลาให้บริการนั้นจะอยู่ที่ 10:00 น ถึง 18:00 น ครับแต่ว่าเข้าช้าที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือเวลา 17.30 น และคุณก็อยู่ถึง 18:00 น ได้ครับ วันหยุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะหยุดทุกวันจันทร์และช่วงวันหยุดของปีใหม่ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะมีตั้งแต่อนิเมชั่นยุคแรกๆจนมาถึงปัจจุบันเลยครับคุณจะได้เห็นตั้งแต่การ์ตูนเก่าๆอย่างนินจาฮาโตริ มาจนถึงอีวาเกเลี่ยนก็ยังมี สามารถได้ทั้งความสนุกและได้รับความรู้ในที่แห่งเดียวเลยครับสำหรับที่แห่งนี้
และนี่ก็เป็นสถานที่จริงๆที่ใช้เป็นต้นแบบในการ์ตูนอนิเมะหรือในภาพยนตร์อนิเมะเรื่องที่ใครหลายคนนั้นชื่นชอบกัน ก็ได้เอามาฝากกันประมาณ 10 สถานที่ด้วยกันครับถ้าใครสนใจมากกว่านี้ก็ลองไปหารายละเอียดดูได้ว่าจะไปยังไงถึงจะสัมผัสกับสถานที่ต่างๆที่ผมนำมาแนะนำในวันนี้ ถ้าคุณวางแผนการเดินทางให้ดีคุณอาจจะได้ไปหลากหลายสถานที่ในวันเดียวเลยครับ แต่ก็ต้องรอให้ช่วงนี้ผ่านไปก่อน สำหรับบทความนี้ผมก็มีเรื่องมาฝากกันเพียงเท่านี้ครับแล้วเจอกันใหม่ในบทความน่าเกี่ยวกับเรื่องต่างๆและข้อเท็จจริงต่างๆเกี่ยวกับอนิเมะที่ผมจะนำมาฝากกัน ติดตามได้ที่เว็บไซต์ของเราเท่านั้นนะครับผม